เกาะติดสถานะการณ์

รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

หลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมเราจะเห็นว่า รัฐบาลคิดว่าความสงบสุขของประเทศคือการทำให้คนเสื้อแดงไม่มีที่ยืนในสังคมโดยการปิดกั้นสื่อ จับกุมแกนนำ จับกุมบุคคลที่พวกเขาเชื่อว่าสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง อีกทั้งออกข่าวให้ร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งตอนนี้เป็นแค่ปฎิบัติการเริ่มต้นเท่านั้น และมีความเชื่อว่าต่อไปพวกเขาจะต้องแต่งตั้งผู้ว่าฯที่เป็นคนของเขาในพื้นที่ของเรา เพื่อตามไปปิดวิทยุชมชนของเรา อีกทั้งให้สัมปทานวิทยุชุมชนแก่คนของเขา เพื่อออกข่าวให้ร้ายและล้างสมองของพวกเรา

จากการกระทำที่ผ่านมาของพวกเขาทำให้เชื่อไปว่า แผนการปรองดองเป็นเพียงแค่ใช้ปากผายลมออกมาเท่านั้นเอง อีกทั้งสามารถเชื่อได้เลยจะไม่มีการยุบพรรคประชาธิบัตอย่างแน่นอน และเมื่อทราบอย่างนี้แล้วพวกเราจะปฎิบัติและก้าวเดินไปอย่างไร เพื่อที่จะสามารถลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ น่าคิดนะ





ภาพเหตุการณ์แบบ ช๊อตต่อซ๊อต

ถ้าหากเว็ปขึ้นว่าโดนบล๊อค ให้โหลดโปรแกรมที่
หากข้อความไม่อัพเดท กด Refresh ด้านขวาใน Cbox











สัมภาษณ์'ลูกชาวนาไทย'


ประวิตร โรจนพฤกษ์

ประวิตร โรจนพฤกษ์ สัมภาษณ์ 'ลูกชาวนาไทย' นามปากกาของข้าราชการอายุ 40 กว่า ผู้มีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่เป็นชนชั้นกลาง โดยผ่านบทความของเขาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางชิ้นก้ได้ถูกนำไปอ่านทางวิทยุเสื้อแดงอีกทีหนึ่ง 'ลูกชาวนาไทย' เป็นลูกชาวนาแท้ๆ เกิดในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือตอนล่างของไทย และมีโอกาสเรียนต่อถึงระดับปริญญาเอกที่อังกฤษ แต่เรียนไม่จบ


ถาม: คนจำนวนหนึ่งบอกว่าคนจนเสื้อแดงไม่สามารถอธิบายจุดยืนทางการเมืองและไม่สามารถอธิบายว่าทำไมยังสนับสนุนทักษิณได้ดีพอ โดยเฉพาะหลังศาลตัดสินเมื่อ 26 ก.พ. คุณคิดอย่างไร


ตอบ: ผมคิดว่า ประชาชนทั้งหลายมองเสื้อแดงว่าไปผูกกับทักษิณเกินไป มองย้อนปัญหาเบื้องต้นดีกว่าว่าไทยพัฒนาอุตสาหกรรม ประมาณปี 2544 คนเข้าเมืองเยอะ ออกจากภาคเกษตรกรรม เขาเลือกตั้ง เลือกเป็นพรรคตลอดและอาจยังไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยหรอก แต่คุณทักษิณบริหารพอใจเขา พอเจอรัฐประหารมันไปกระทำกับชาวบ้านที่เลือก [ทักษิณ] มันหมายถึงตัวแทนของเขาชาวบ้านรู้สึกว่าคนรวย ตอนหลังเปลี่ยนเป็นอำมาตย์ มันทำลาย common rights (สิทธิพื้นฐานต่างๆ) ของเขา คนกรุงเทพฯ ยังคิดเสมอว่าคนชนบทยังซื้อขายเสียง แต่คนชนบทเดี๋ยวนี้มันต่างกันเยอะ เพราะฉะนั้นจริงๆ เขาสู้เพื่อสิทธิพื้นฐานของเขา แต่ทักษิณเป็นตัวแทน แต่ชาวบ้านเขาแยกไม่ออก


ถาม: คุณคิดว่าคนเสื้อแดงมีปัญหาในการสื่อสารกับชนชั้นกลางและชนชั้นนำในสังคมไทยหรือไม่


ตอบ: ผมคิดว่าเป็นปัญหาของสื่อกระแสหลักมากกว่า ที่ต้องทำหน้าที่ในการค้นหาความจริงไม่ใช่หน้าที่ของประชาชน [เสื้อแดง] อันนี้ผมมีข้อเสนอตั้งนานวว่า การเมืองเป็น political polarization (การแบ่งขั้วทางการเมือง) มันไม่ฟังสื่ออื่นหรอก พอสื่อกระแสหลักมีการให้ข่าวเอนเอียง คนเสื้อแดงก็ตีตราไปว่าเป็นสื่ออำมาตย์ แล้วเขาก็ไม่ฟัง ตอนนี้เขาไม่แคร์สื่อกระแสหลักเท่าไหร่แล้ว ลักษณะการเมืองแบ่งขั้ว ทุกคนจะไม่ฟังสื่อกระแสหลัก แต่ฟังสื่อของตัวเอง เพราะฉะนั้นมันก็มีสื่อของใครของมัน ฝ่ายที่เป็นกลางก็จะมีอิทธิพลลดลง โดยส่วนตัว ผมไม่เปิดสื่อกระแสหลักตั้งแต่มาร์คเป็นรัฐบาล


ถาม: ตอนนี้เรากำลังอยู่ในสถานการณ์สงครามทางชนชั้นหรือไม่ และทำไม


ตอบ: จริงๆ ผมรู้สึกมันเป็นตั้งนานแล้ว ตั้งแต่หลังรัฐประหารแล้วล่ะ คือโครงสร้างทางเศรษฐกิจมันเปลี่ยนไป เป็นสังคมอุตสาหกรรม แต่มันยังฟอร์มตัวไปที่แกนนำไม่ชัดเจน


ถ้าให้ผมแบ่งคนเสื้อแดง ผมก็จะแบ่งเป็นสามกลุ่ม กลุ่มรากหญ้าสู้เพื่อ common rights (สิทธิพื้นฐาน) สอง ชนชั้นกลางที่มาร่วม แต่เขาไม่มีสื่อของเขาเอง เพราะค่ายดังๆ ไปอยู่สีเหลืองหมด และไม่มีหมอประเวศ (วะสี) เป็นคนโฆษณา แต่ในอินเทอร์เน็ต เขารู้กันอยู่ พวกนี้อาจมีแนวคิดแบบ socialism (สังคมนิยม) คนชั้นกลางแดงไม่ได้คิดเรื่องทักษิณอะไรมาก แต่มองว่าเป็นเครื่องมือจุดชนวนให้เกิดการปฎิวัติประชาธิปไตยได้ ก็มีส่วนหนึ่งที่เขารักทักษิณ แต่โดยรวมเขาคิดว่าทักษิณสามารถเป็นสัญลักษณ์ได้ คุณคิดดูสิ อาจารย์ใจ (อึ๊งภากรณ์) เขาไม่ได้นับถือคุณทักษิณหรอก หมอเหวง (โตจิราการ) ก็เหมือนกัน คนเสื้อแดงไม่ได้ถูกปลุกขึ้นมาหรอกครับ คนมันตาสว่างแล้ว เสื้อแดงเขาตาสว่างแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง แล้วการจัดการสามเกลอลงไป [คุม] กลุ่มย่อยไม่มี โครงสร้างการจัดการลงไปเป็นกลุ่มย่อยทั้งหมด


ทำไมคนเสื้อแดงถึงทิ้งทักษิณ แล้วออกมาเคลื่อนเองโดยไม่มีประเด็นทักษิณไม่ได้ ในเมื่อชนชั้นกลางและสื่อกระแสหลักจำนวนมาก มองว่า คนเสื้อแดงถูกทักษิณและสามเกลอหลอก
หลอกรึเปล่าไม่ทราบ ผมคิดว่าคุณทักษิณให้ในสิ่งที่คนต้องการ ทิ้งทักษิณไม่ได้เพราะทักษิณเป็นไอดอล ถ้าคุณทิ้งพลังคุณหายไป 60% ผมคิดว่าถ้าเราวิเคราะห์จริงๆ ฐานส่วนใหญ่คนเสื้อแดงเป็นคนบ้านนอก 80% ผมไม่คิดว่าชนชั้นกลาง [เสื้อแดง] จะถึงห้าแสนหรอก ทำไมผมถึงต้องทิ้งเนื้อก้อนใหญ่และอย่างมากก็ได้คนมาอีกสักแสนคน เรื่องโกงกิน คนเสื้อแดงคิดว่าคุณไม่มีหลักฐานพิสูจน์


ถาม: คิดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะยุติอย่างไร


ตอบ: ผมมองว่ายุติที่กติกาครับ การขัดแย้งเป็นการขัดแย้งทางโครงสร้างแล้วล่ะ ต้องมีกติกาที่เป็นธรรม เหมือนบอลแข่งกันมันต้องการกติกาที่เป็นธรรม ไม่ใช่ความสมานฉันท์ ถ้าคุณยังคิดว่าทักษิณเลว คนเสื้อแดงถูกทักษิณจ้างมา งั้นก็รบกันต่อไปจนกว่าฝ่ายโน้นจะยอมรับว่าเสื้อแดงเขาสู้เพื่อประชาธิปไตยนะ โดยโครงสร้างเสื้อแดงปรับไปแล้ว ถ้าคุณปราบอันนี้ได้ จับสามเกลอ มันก็เกิดเป็นอันย่อยขึ้นมาแทน สิ่งที่ฝ่ายเหลืองไม่คิดเลย หรือสื่อกระแสหลักไม่คิดเลยก็คือว่า ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ใคร ผมว่าสังคมรู้แต่พยายามโกหกตัวเอง ก็รบกันต่อ


ผมเคยศึกษาเรื่อง French Revolution (ปฎิวัติฝรั่งเศส) ผมว่าสถานการณ์มันใกล้เคียงกัน ... เพราะฉะนั้นเรากำลังก้าวไปอยู่ตอนปี 1785 ของฝรั่งเศส ... ฝรั่งเศสมันเกิด French Revolution ตอนปี 1789 เพราะฉะนั้นเราใกล้มา [ถึง] แล้ว ถ้าสื่อกระแสหลักไม่พยายามเสนอเรื่องความจริง และบอกมาคุยกัน มันก็จบไม่ได้ คุณประวิตรรู้จักคำว่า "ซาบซึ้ง" ไหม นั่นคือตัวปัญหา


บางคนบอกยุบสภาลาออกก็ไม่แก้ปัญหา เพราะถ้าแดงขึ้น เหลืองก็ออกมาชุมนุมอีก
พยายามสร้างอะไรขึ้นมาหรือเปล่า ให้เสื้อเหลืองใหญ่โตและแดงเล็กลง การประท้วงของเสื้อเหลืองผมว่าถูกเซ็ตอัพขึ้นมาโดยอีลีท แต่มันยังตกลงกติกาไม่ได้ ก็ไม่จบ ถ้ายุบสภาก็ไม่จบ ... ดูจากความวุ่นวายในประเทศใกล้ๆ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ผมว่าใช้เวลา 10 ปีกว่าจะจบ ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มเบื่อและมาคุยกติกา คือคุยจริงๆ


สถาบันจะเริ่มเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเรื่อยๆ และมีการแอบอ้างไปหมด


ถาม: คุณเป็นเสื้อแดงและข้าราชการในขณะเดียวกัน ลำบากใจไหม เพราะเปิดเผยตัวต่อสาธารณะและสื่อไม่ได้


ตอบ: ผมไม่ลำบากใจเท่าไหร่ ม็อบชนชั้นกลางเสื้อแดงที่ผมรู้จัก 20-25% เป็นข้าราชการ คุณสงสัยว่าความลับราชการทำไมมันรั่ว ในวงราชการมันครึ่งๆ [เหลือง-แดง]


ถาม: ยิ่งชุมนุมยาว รถยิ่งติดเศรษฐกิจยิ่งกระทบ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการลงทุน คุณจะให้คนกรุงเทพฯ ไม่โกรธได้อย่างไร ถือว่าเสียมากกว่าได้หรือไม่


ตอบ: ตอนนี้สังคมแบ่งเป็นสองสีชัดเจนแล้ว มันไม่มีคนเป็นกลางหลงเหลือแล้ว คนเสื้อเหลืองทำไมต้องไปแคร์ คุณยังสนับสนุนรัฐประหารได้ เพราะฉะนั้นสังคมต้องรับกรรม ถ้ายังไม่พร้อมจะเจรจา และในกรุงเทพฯ มีคนกรุงเทพฯ ต้อนรับ คนกรุงเทพฯ ครึ่งหนึ่งเป็นเสื้อแดง


ถาม: ชนชั้นกลางและชนชั้นนำจำนวนหนึ่งคิดว่าคนจนซึ่งมีการศึกษาน้อยไม่ควรมีสิทธิมีเสียงทางการเมืองเท่าชนชั้นสูงและชั้นกลางเพราะวุฒิภาวะไม่พอและไม่ฉลาด แถมยังไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้


ตอบ: ถ้าเราย้อนหลังไปดูอเมริกา มีการเลือกตั้งเมื่อสองร้อยปีที่แล้ว แต่คนตอนนั้นครึ่งหนึ่งก็อ่านหนังสือไม่ออก การเลือกตั้งใช้จิตสำนึกมากกว่า ว่าเขาได้ผลประโยชน์อะไร ต้องคำนึงถึง common rights คือสิทธิพื้นฐานของเขา เขาก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์พื้นฐานของเขา ถ้าคิดถึงรถไฟฟ้า ผมไม่เห็นเป็นอุดมการณ์อะไร มันเป็นผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ... และผมก็ไม่คิดว่าคนมีการศึกษาจะใช้สิทธิเลือกตั้ง มีเหตุมีผลกว่าคนที่มีการศึกษาไม่ดี คนกรุงเทพฯ อาจนึกถึงรถไฟฟ้า คนชนบทอาจนึกถึงสิ่งที่เขาเผชิญอยู่